บทความเรียนต่อ / เลือกมหาวิทยาลัย “ที่ใช่” แล้วไปเรียนต่อออสเตรเลียกัน
เลือกมหาวิทยาลัย “ที่ใช่” แล้วไปเรียนต่อออสเตรเลียกัน

- Study Abroad
- 18 December 2020
- Insight team
การเรียนมหาวิทยาลัยถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาตนเองแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่เริ่มคิดถึงอนาคต การสร้างอาชีพ และการสร้างมิตรภาพกับเพื่อนใหม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเลือกมหาวิทยาลัยที่ใช่และเหมาะกับเราจึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่ที่สำคัญที่สุด
ประเทศออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยทั้งหมดรวม 43 แห่ง โดยเป็นมหาวิทยาลัยของออสเตรเลีย 40 แห่ง มหาวิทยาลัยนานาชาติ 2 แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชน 1 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการศึกษาอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่เปิดสอนในระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า ด้วยตัวเลือกมหาวิทยาลัยที่มีมากมาย ทางทีมงาน Insight Education Consulting มีเทคนิคในการเลือกมหาวิทยาลัยที่ใช่ที่สุดมาบอกต่อกัน
#1 หลักสูตร
อันดับแรกแน่นอนว่าเป็นเรื่องของหลักสูตรเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มหาวิทยาลัยที่เราเลือกต้องการมีหลักสูตรที่เราอยากเรียน รวมถึงตัวเราเองก็ต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดเช่นกัน จากนั้นให้ดูรายละเอียดของหลักสูตรว่าเป็นหลักสูตรแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นวิชาเอกหรือวิชาเลือก รวมถึงดูว่าเป็นหลักสูตร double degree หรือไม่
สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ โอกาสในการหาประสบการณ์นอกห้องเรียน เช่น การฝึกงาน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร เช่น ศูนย์ปฏิบัติการ Super Lab ของ University of Technology Sydney (UTS) ที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมให้นักศึกษาได้เรียนรู้และใช้งาน

ตัวอย่างภาพ Super Lab ของ University of Technology Sydney
นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรหลายสาขาที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่สนับสนุนนักศึกษาเพื่อศึกษา ค้นหา และเพิ่มประสบการณ์ในการทำงาน หรือแม้แต่การเพิ่มทักษะการเป็นผู้ประกอบกิจการ เช่น พื้นที่ทำงานที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างโปรเจคและการวิจัยร่วมกัน อย่างเช่น Makerspace ของมหาวิทยาลัย UNSW Sydney หรือ ชมรมสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง, ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ (หรือที่เรียกว่า incubator) ซึ่งจะมีหน่วยงานหรือองค์กรมาให้ความรู้ คำแนะนำ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกันอย่าง Design Factory ของ Swinburne University of Technology
ถึงแม้หลักสูตรของมหาวิทยาลัยหลายแห่งจะมีชื่อเรียกเหมือนกัน แต่สิ่งที่จะได้รับจากมหาวิทยาลัยย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นเราควรพิจารณาและเปรียบเทียบหลักสูตรของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งให้ถี่ถ้วน
#2 การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเลือกมหาวิทยาลัย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรที่จะโฟกัสตรงจุดนี้มากเกินไปนักเพราะเราอาจจะพลาดโอกาสพิจารณามหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับเรา
แล้วทำไมต้องมีการจัดลำดับมหาวิทยาลัยล่ะ?
อันดับแรก: มหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศออสเตรเลียถูกควบคุมมาตรฐานโดยรัฐบาล และจะต้องผ่านกระบวนการการประกันคุณภาพต่าง ๆ รวมไปถึงกฎหมายที่เข้มงวดในด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ ดังนั้น การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจว่าเราจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในประเทศออสเตรเลียและระดับสากล
อันดับที่ 2: การจัดอันดับบ่งบอกถึงการมีการลงทุน ซึ่งมหาวิทยาลัยล้วนให้ความสำคัญและลงทุนทั้งเวลาและทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาคุณภาพมหาวิทยาลัย รวมถึงทำให้มหาวิทยาลัยของพวกเขาอยู่ในอันดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาดูการจัดอันดับให้ดี ๆ ทั้งการจัดอันดับสาขาวิชาและการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยรวม
ตัวอย่างเช่น Deakin University ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศออสเตรเลีย และอยู่ในอันดับที่ 271 ของโลก โดย QS World University Rankings แต่ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลกในด้าน Sports Science โดย ARWU ปี 2017
การจัดอันดับของออสเตรเลีย | การจัดอันดับของโลก | มหาวิทยาลัย |
1 | 31 | Australian National University, Go8 |
2 | 40 | University of Sydney, Go8 |
3 | 41 | University of Melbourne, Go8 |
4 | 44 | University of New South Wales (UNSW), Go8 |
5 | 46 | University of Queensland, Go8 |
6 | 55 | Monash University, Go8 |
7 | 92 | University of Western Australia, Go8 |
8 | 106 | University of Adelaide, Go8 |
9 | 133 | University of Technology Sydney (UTS) |
10 | 196 | University of Wollongong |
Top 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของออสเตรเลียโดย Qs World University Rankings 2021
#3 ทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัย
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มากและมีมหาวิทยาลัยตั้งกระจายอยู่หลายเมือง มหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งอยู่เพียงในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังกระจายตามเมืองต่าง ๆ ซึ่งมักจะสะดวกในการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นการจะนัดเจอหรือเที่ยวกับเพื่อนที่อยู่คนละเมืองก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องวางแผนเวลาให้ดีเท่านั้นเอง นอกจากนี้ แต่ละเมืองของประเทศออสเตรเลียยังมีบรรยากาศและเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ค่าครองชีพ และ ผู้คน และประสบการณ์การใช้ชีวิต ดังนั้น เราต้องดูว่ามหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมืองไหน แล้วเราชอบลักษณะของเมืองนั้นหรือไม่

#4 ลักษณะของมหาวิทยาลัย
ลักษณะทั่วไปของมหาวิทยาลัยที่เราควรพิจารณาคือ วิทยาเขตและที่ตั้ง ตัวอย่างเช่น University of Melbourne มีวิทยาเขตในใจกลางเมือง เช่นเดียวกันกับ RMIT University และ Victoria University ที่มีวิทยาเขตตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นมีวิทยาเขตแถบชานเมืองแต่ก็มีระบบขนส่งสาธารณะอย่างดี เช่น Monash University, Deakin University, Swinburne University of Technology และ La Trobe University เป็นต้น
แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยที่ตั้งในใจกลางเมืองและชานเมืองย่อมให้มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องตัวเลือกที่พักนักศึกษา ค่าครองชีพ และการเดินทาง แต่เราต้องพิจารณาว่ามหาวิทยาลัยแบบไหนที่ให้ความรู้สึกดีที่สุด ให้ความรู้ที่ใช่ว่านี่แหละคือเมืองที่เราจะไปเรียน หากยังไม่แน่ใจว่าเลือกเมืองยังไง การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุด 10 แห่งในประเทศออสเตรเลียโดย The Times Higher 2018 อาจเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกเมืองได้

ภาพมหาวิทยาลัยซิดนีย์ หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของออสเตรเลีย
#5 ขนาดของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยบางแห่งในประเทศออสเตรเลียมีขนาดใหญ่มากอย่างมหาวิทยาลัยโมนาช โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียและมีนักศึกษามากกว่า 60,000 คน ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ มีขนาดเล็กกว่ามาก ด้วยจำนวนนักศึกษาประมาณ 10,000 คนหรืออาจจะน้อยกว่า เช่น มหาวิทยาลัย Bond ที่มีนักศึกษาประมาณ 6,000 คน
สิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม
- ชมรมและกิจกรรมทางสังคม
มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีกิจกรรมนอกหลักสูตรมากมาย เช่น ชมรมกีฬา รวมถึงกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมักมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ อย่างเช่น Central Hub ศูนย์การเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยแอดิเลด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีทางด้านนี้ - การสนับสนุนนักศึกษา
มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีบริการและให้ความช่วยเหลือนักศึกษาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนักศึกษาของพวกเขา ดังนั้น เราควรเช็คว่ามหาวิทยาลัยนั้นมีความช่วยเหลือและสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติอย่างไรบ้าง - การสนับสนุนด้านอาชีพ
มหาวิทยาลัยมักจัดกิจกรรมหรือเวิร์คชอปให้กับนักศึกษาที่กำลังมองหางาน ทั้งระหว่างเรียนอยู่และหลังสำเร็จการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Resume/CV ให้ได้งาน การเตรียมใบสมัครงานหรือการฝึกสัมภาษณ์งานให้โดนใจกรรมการ การสร้างเครือข่าย และประกาศรับสมัครงาน ตัวอย่างเช่น ในเว็บไซต์ของ RMIT University มีหน้า Career service ที่ให้บริการรูปถ่ายแบบมืออาชีพเพื่อสร้างโปรไฟล์ออนไลน์ฟรีให้กับนักศึกษา
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังมีสงสัย อยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ ไม่ต้องไปไหนไกลเลย สอบถามข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเรียนต่อประเทศออสเตรเลียได้ที่ Insight Education Consulting ยินดีให้บริการครบทุกขั้นตอนฟรี
Line: @insightedu (มี @ ข้างหน้า)
โทร. 02 236 7222
หรือให้ที่ปรึกษาของอินไซท์ติดต่อกลับโดยตรง คลิกกรอกข้อมูล
ติดตามข่าวสารเรียนต่อประเทศออสเตรเลีย
Facebook: Insight Education Consulting
Twitter: @insightedu
Instagram: @insighteduthailand
YouTube: insightstudyaus
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรียนต่อ Communication and Media Studies ที่ออสเตรเลีย

